Smile saimai:การเลือกซื้อหุ้น จากประสบการณ์ Marketing
ในปัจจุบันมีคนมากมาย ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้น โดยทุกคนหวังว่าจะได้กำไรมากที่สุดจากการลงุทน โดยการแสวงหาข้อมูลและวิธีต่างๆในการซื้อหุ้น ทั้งจากการฟังสัมมนา ซื้อหนังสือวิธีการลงทุน เพื่อเป้าหมายที่ทุกคนต้องการ คือ กำไร “กำไรของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ขอย้ำในตลาดหุ้น การมีกำไรน้อยดีกว่าไม่มีเลย ดีกว่าขาดทุน”
จากประสบการณ์ที่เคยเป็น Marketing และ สอบถาม Marketing มือทอง ที่ปัจจุบันยังคงทำงานด้านตลาดหุ้น เพื่อหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อยู่ พอจะมีวิธีเอาตัวรอดจากตลาดหุ้นและมีกำไรติดมือมาบ้าง ดังนี้
การมี Marketing รู้ใจ เก๋าประสบการณ์ การที่จะเล่นหุ้น อย่างที่ทราบกัน ถ้าไม่ Trade internet ก็ต้องใช้ Marketing ซึ่งอันนี้ก็เป็นส่วนสำคัญ ถ้าได้คนที่มีประสบการณ์ 3 ปีขึ้นไป “ไม่ใช่ Marketing เด็กๆ ไม่ดี แต่บางเรื่องมันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ด้วย” เพราะบางที มันต้องใช้ sense มากกว่าข้อมูลการวิเคราะห์มากมาย เช่น การสังเกตุการโยนหุ้น การเก็บหุ้น ในหุ้นแต่ละตัว, มีทักษะในการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดได้อย่างแม่นยำ ,ให้ข้อมูลอย่างถูกต้องเหมาะสมไม่หมกเม็ดข้อมูล เป็นต้น
วิธีการเลือกซื้อหุ้นให้ได้กำไร ไม่ต้องคิดไรมาก กำไรเท่านั้นที่นักเล่นหุ้นต้องการ มากน้อยแล้วแต่ความโลภของแต่ละบุคคล
-เล่นหุ้นตาม Port บริษัทหลักทรัพย์ “PoP Trade “ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องไปศึกษาและหาข้อมูลประกอบ
-เลือกหุ้นที่ In trend ในขณะนั้น ทำไมน่ะหรือ เพราะบางทีตลาดแย่ ไม่เล่นหุ้นตัวใหญ่ ตลาดก็จะ switch ไปหุ้นตัวเล็ก ลองสังเกตุตลาดดู บางทีตลาดบางช่วงหุ้นใหญ่วิ่งอย่างเดียว บางช่วงหุ้นเล็ก วิ่ง ต้องสังเกตุตลาด
-ซื้อหุ้นทั้งที ก็อย่าลืมพื้นฐานดีๆ และมี Dividend แจกบ้าง เผื่อกรณีติดหุ้นจะได้มีกำไรเล็กๆปลอบใจ
-มี Volume เข้า อันนี้เป็นตัวชี้ว่า หุ้นนั้นอยู่ในความสนใจของตลาด และมีคนเล่นแน่นอน คือซื้อมาไงก็ขายได้ ส่วนจะกำไรหรือขาดทุน ก็ว่ากันอีกเรื่อง
-อย่าเลือกซื้อหุ้นก่อนประกาศ XD ตัวที่ปันผลสูง เนื่องจากว่าบางที หลัง ปันผลหุ้นราคาทรุดๆนาน กว่าราคาจะกลับมา หรือ ลงมากกว่าปันผล
-บทวิเคราะห์ ใช้สำหรับศึกษาข้อมูล แต่อย่าใช้ข้อมูลทั้งหมดในการตัดสินใจซื้อหุ้น
เมื่อติดหุ้นควรทำอย่างไร “ในเมื่อซื้อไปแล้ว พลาดไปแล้ว”
-อย่างแรกหุ้นตัวนั้น เข้าหลักเกณฑ์การซื้อหุ้นที่แนะนำไปตอนแรกหรือเปล่า ถ้าเข้าเกณฑ์ก็ยังพอมีหวังว่า มันจะกลับมา แต่อาจจะช้าหน่อย “อันนี้สำหรับคนใจเย็น รอได้”
-ซื้อเฉลี่ยราคาให้ต้นทุนต่ำลง (สำหรับคนมีเงินถุงเงินถัง) หรือ ซื้อหุ้นตัวเดิมเพิ่ม แต่ใช้วิธีรับรู้ต้นทุนใหม่ แทน เล่น Lot ใหม่ ส่วน Lot เก่าก็เก็บไว้ หรือ Switching เปลี่ยนตัว เพื่อนำกำไรตัวใหม่ไปโปะตัวเก่า “สำหรับคนรอไม่ได้ ใจมันร้อน”
-อันนี้เป็นวิธี Classic ที่สุด ไม่ได้ประชดประชัน แต่ให้ทำใจแล้วอยู่นิ่งๆ ตรึกตรองให้ดี ว่าจะใช้วิธีไหน ในการติดหุ้น
Insider
มีคนบอกผมว่า ถ้าจะรวยหุ้น และได้กำไร คุณต้องมี insider (ข้อมูลเชิงลึก) ภาษาชาวบ้าน ก็ “วงใน” แล้ววงในแบบไหนล่ะ ที่จะดี แม่น โดน แต่ที่เคยได้ยิน ส่วนมากจะไม่ใช่ จากหน้าหนังสือพิมพ์ แน่นอน ส่วนมากก็คงจะ มาจากโต๊ะ กินข้าว เพราะเวลาคุยธุรกิจกัน ส่วนมากก็นัดไปทานข้าว
แหล่งคนให้ข้อมูล อันนี้ก็สำคัญ ระหว่าง MD กับ พนักงานรักษาความปลอดภัย คุณจะเชื่อใครล่ะ และข้อมูลนั้น Make sense เชื่อถือได้แค่ไหน อันนี้ก็ต้องตรวจสอบกับข้อมูลพื้นฐาน ประกอบ
ท้ายสุดนี้บทความเบื้องต้น เป็นเพียงความคิดเห็นของ อดีต Marketing เท่านั้น ไม่ใช่วิธีการเฉพาะเจาะจง เป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง สำหรับการเอาตัวรอด ในตลาดหุ้น เท่านั้น “กำไรน้อย ดีกว่าเท่าทุน เท่าทุน ดีกว่าขาดทุน แน่นอน ฟันธง 1,000 % “
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น